นอกจากวัน "สตรีสากล" ที่ ทั่วโลกรู้จักในวันที่ 8 มีนาคมของทุกปี สำหรับชาวไทย ก็มี "วันสตรีไทย" ตรงกับวันที่ 1 สิงหาคมของทุกปี โดยจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันมหามงคล 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ และเป็นวันสำคัญเพื่อให้ผู้หญิงไทย มีโอกาสได้แสดงความรู้ความสามารถในการพัฒนาประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันสังคม เทียบเท่าสตรีสากลของหลายประเทศ
‘โรคซึมเศร้า’ สาเหตุอันดับ 1 ความเจ็บป่วยและพิการของหญิงไทย
องค์กรสตรีร้อง ผบ.ตร. เปิดโอกาสให้ ตร.หญิงขึ้นเป็นผู้นำ
และเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2546 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเปิดงานวันสตรีไทย ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร พระราชวังดุสิต พร้อมทั้งมีพระราชดำรัส 4 ประการ เนื่องในวันสตรีไทย
ประการที่ 1 พึงทำหน้าที่ของแม่ให้สมบูรณ์ ประการที่ 2 พึงทำหน้าที่แม่บ้านให้ดี ประการที่ 3 พึงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย ประการที่ 4 ฝึกฝนตนเองให้มีความรู้ความสามารถยิ่งขึ้น
ดอกไม้ประจำวันสตรีไทย
ในวันที่ 1 สิงหาคม 2551 สภาสตรีแห่งชาติฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานดอกกล้วยไม้พระนามแคทลียา ควีนสิริกิติ์ เพื่อใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีสืบไปด้วย
ความสำคัญวันสตรีไทย
วันสตรีไทยยังเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงไทยออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าผู้หญิง มีบทบาทและส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมระดับนานาชาติมากขึ้น โดยมีความสามารถทัดเทียมไม่แพ้ผู้ชาย และเป็นที่ยอมรับจากสังคม จะเห็นได้จากหน่วยงานราชการและภาคเอกชน ที่มีสตรีเข้าไปเป็นผู้นำองค์กรหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงมากขึ้น รวมถึงการเข้าไปมีบทบาทดำรงตำแหน่งบริหารประเทศ เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ , คุณนวลพรรณ ล่ำซำ,คุณปวีณา หงสกุล
โดยสตรีไทยในยุคปัจจุบันที่มีความสามารถในการก้าวนำสังคม ต้องเป็นสตรีที่มีความรู้ความสามารถครบถ้วนในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการบริหาร การจัดการ และด้านครอบครัว ในการเป็นแม่ที่ดีของลูก เป็นภรรยาที่ดีของสามี และเป็นแม่ศรีเรือนที่ดี พร้อมทั้งก้าวทันยุคสมัย เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคม
สำหรับในระดับสากล มีสตรีในหลายประเทศทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตแล้ว ที่ได้รับการยกย่องในความสามารถและบทบาทในการขับเคลื่อนสังคมจากผู้คนทั่วโลก เช่นเ จ้าหญิงไดอาน่า แห่งอังกฤษ, แม่ชีเทเรซา แห่งอินเดีย, ประธานาธิบดี เมกาวลี แห่งอินโดนีเซีย และนางอองซานซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา
อ้างอิง
https://guru.sanook.com/6382/คำพูดจาก เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
https://www.thaiwomen.or.th/en/knowledge_women
